น้อยคนนักที่จะรู้จักประเทศนี้, ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นมาก่อนที่เคยไม่รู้จัก ประเทศไอซ์แลนด์ (Iceland) หรือ สาธารณรัฐไอซ์แลนด์ (Republic Of Iceland)
ไอซ์แลนด์เป็นเกาะ ตั้งอยู่แถบสแกนดิเนเวียในทวีปยุโรปเหนือ มีเมืองหลวงชื่อ เรคยาวิก (Reykjavik) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่อยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือมากที่สุดในโลก ไอซ์แลนด์มีประเทศเพื่อนบ้านที่มีความคล้ายคลึงกันเกือบทั้งหมด ได้แก่ ฟินแลนด์, นอร์เวย์, เดนมาร์ก และ สวีเดน
ฟังชื่อก็น่าจะรู้แล้วว่าประเทศนี้ "หนาว" แต่พระเจ้าก็ไม่ได้สร้างเพียงความหนาวเย็นมาให้ดินแดนอันมหัศจรรย์นี้ ไอซ์แลนด์ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนที่น้ำแข็งกับไฟมาเจอกัน (กรี๊ด ! เก๋กู๊ด) ไอซ์แลนด์ยังเป็นแผ่นดินใหม่ เป็นเกาะใหม่อายุไม่มากนัก ทำให้ยังมีภูเขาไฟอีกหลายร้อยแห่งที่ยังปะทุ รวมถึงน้ำพุร้อน
ซึ่งต้องขอชมว่า Iceland ฉลาดมากที่นำพลังงานความร้อนเหล่านี้มาทำเป็นพลังงานหมุนเวียน ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า ! (เก๋มากกกกกกกกก) ไอซ์แลนด์จึงได้อันดับ 1 ประเทศที่อนุรักษ์ธรรมชาติได้ดีที่สุดในโลก และติดอันดับ 1 ประเทศที่สงบสุขที่สุดในโลกมาแล้ว 3 ปีซ้อน เนื่องด้วยประชากรทั้งประเทศเพียง 3 แสนคน พูดกันง่าย ๆ เลยว่า ไปไหนมาไหนใครก็รู้จักกัน เลยไม่มีใครกล้าทำอะไร รวมถึงคุณภาพชีวิตดีมาก ๆ ด้วย เรื่องอาชญากรรมเลยเป็นอะไรที่หายห่วงไปเลย
ถ้าถามว่าอะไรที่โด่งดังใน Iceland.. อืม.. ที่ผมคิดได้ในหัวก็คงจะมี ธารน้ำแข็ง (Glaciers), บลูลากูน (อ่างแช่น้ำร้อนขนาดใหญ่), ภูเขาไฟ, แสงเหนือ หรือที่รู้จักกันในนาม "Aurora"
ว่าแล้วก็ไปชมภาพตัวอย่างของประเทศไอซ์แลนด์กันหน่อยครับ ^^
สังเกตได้จากรูปว่าเป็นประเทศที่สงบ, สงบมากจนโดดเดี่ยว ประเทศนี้ไม่เหมาะกับคนที่ชอบแสงสีเสียงเป็นอย่างยิ่ง เหมาะสำหรับคนที่ชอบอยู่กับธรรมชาติ อยู่เงียบ ๆ แต่มีความสุขได้ :)
ความจริงแล้วปีนี้ผมจะสอบ AFS แล้วตั้งปณิธาณว่าจะเอาประเทศ Iceland ให้ได้ แต่พลาดในส่วนของการลืมปริ้นท์ใบสมัครไปส่ง ทำให้ผมพลาดโอกาสในปีนี้ไป ;_;)
แต่ปีหน้าผมตั้งใจว่า จะไม่ลืมแล้ว ! (ฮาา) จะตั้งใจทำฝันให้เป็นจริง ถ้าสมมติติด แต่ไม่ได้ไป เนื่องจากเรื่องของการเงิน ผมก็จะพยายามไม่เสียใจละกัน เพียงแค่ครั้งหนึ่งในชีวิต ผมมีประวัติติดตัวไปบอกใครได้ว่า "ฉันติด AFS Iceland" ผมก็ภูมิใจมากแล้ว หาโอกาสไปทำงานตอนโตที่นั่นแทนเลยก็ได้
แต่ถ้าสมมติขรุ่นแม่และขรุ่นพ่อกัดฟันยอมขายนาและควายส่งไปเรียน มันคงจะเป็น 1 ปีที่สนุกมาก แน่นอนว่าคงไม่ได้ไปเที่ยวอย่างเดียว สิ่งที่เราจะได้มานั่นคือ "ประสบการณ์" มันคงจะทำให้เรารู้จักแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี ทำให้เรามีความคิดที่โตขึ้น ทำให้เรารู้จักแก้ไขอุปสรรค ซึ่งเราไม่อาจมีประสบการณ์แบบนี้ได้ในบ้านเกิดเมืองนอนของเรา การที่เราได้ไปอยู่ในที่ที่แปลกตา อากาศแปลกไป ผู้คนแปลกตา ถนนหนทางที่ไม่รู้จัก ภาษาที่ไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ มันจะทำให้เราเป็นคนที่แข็งแกร่งได้อย่างแน่นอน :)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น